GPS กับกล้องติดรถยนต์ ทำงานเสริมกันอย่างไร?

4 จำนวนผู้เข้าชม  | 

GPS กับกล้องติดรถยนต์ ทำงานเสริมกันอย่างไร?

GPS และกล้องติดรถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้รถ ทั้งสองอย่างทำหน้าที่ต่างกัน แต่เมื่อใช้งานร่วมกันจะเสริมประโยชน์ให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งด้านข้อมูล ความปลอดภัย และการป้องกันปัญหาต่างๆ

หน้าที่หลักของแต่ละอุปกรณ์
1. GPS (Global Positioning System)

  • ระบุตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์
  • บันทึกเส้นทางการเดินทางย้อนหลัง
  • ตรวจสอบความเร็วขณะขับขี่
  • แจ้งเตือนหากรถออกนอกเส้นทาง หรือหยุดนานผิดปกติ
  • ใช้ติดตามกรณีรถหายหรือถูกขโมย
2. กล้องติดรถยนต์ (Dash Cam)
  • บันทึกภาพและเสียงระหว่างขับขี่
  • ใช้เป็นหลักฐานกรณีเกิดอุบัติเหตุ
  • ตรวจสอบเหตุการณ์ขณะรถจอด (บางรุ่นรองรับระบบจอดบันทึก)
  • ตรวจพฤติกรรมการขับขี่ย้อนหลัง

 
เมื่อใช้ร่วมกัน จะเสริมกันอย่างไร?
1. เพิ่มหลักฐานทั้ง “ภาพ” และ “ตำแหน่ง”
– กล้องให้ภาพวิดีโอขณะเกิดเหตุ
– GPS ให้ข้อมูลตำแหน่ง วันเวลา ความเร็ว
– เมื่อนำมารวมกันจะให้ข้อมูลที่ครบถ้วน ชัดเจน และน่าเชื่อถือมากขึ้น
– ใช้เป็นหลักฐานยืนยันกับบริษัทประกัน หรือเจ้าหน้าที่ได้ดีกว่าใช้อุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง

2. ป้องกันและติดตามกรณีรถหายหรือถูกโจรกรรม
– GPS ช่วยระบุตำแหน่งของรถ
– กล้องสามารถจับภาพคนร้ายหรือเส้นทางที่ใช้หลบหนี
– เพิ่มโอกาสในการติดตามและนำรถกลับคืนได้เร็วขึ้น

3. ควบคุมและตรวจสอบพฤติกรรมผู้ขับขี่ (เหมาะกับธุรกิจขนส่งหรือครอบครัว)
– GPS ตรวจสอบเวลา ความเร็ว และจุดจอด
– กล้องจับภาพพฤติกรรม เช่น ขับเร็ว เบรกกระชั้นชิด ขับบนไหล่ทาง
– ช่วยปรับปรุงพฤติกรรมหรือใช้เป็นหลักฐานในกรณีมีข้อพิพาท

4. ตรวจสอบปัญหาและการเคลมประกัน
– บันทึกได้ว่ารถวิ่งไปที่ไหน เกิดเหตุที่ใด เมื่อใด และลักษณะเหตุการณ์เป็นอย่างไร
– ลดปัญหาการปฏิเสธการจ่ายสินไหมจากบริษัทประกัน

---------------------------------------------------------------
สนใจติดตั้ง GPS หรือสอบถามเพิ่มเติม
080-295-6052 (พี่บอย)
080-295-1830 (พี่ปูเป้)
LINE: @gpsthaicar
Email: gpsthaicar@gmail.com

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้