การติดตั้ง GPS Tracker ในรถยนต์หรือรถบรรทุกมีจุดประสงค์หลักคือเพื่อใช้ติดตามตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ ตรวจสอบการใช้งาน และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางหรือขนส่งสินค้า โดยการติดตั้งสามารถทำได้ทั้งในรถยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก ไปจนถึงรถขนส่งขององค์กร
ขั้นตอนการติดตั้ง GPS Tracker ที่ควรรู้
1. เลือกรุ่น GPS Tracker ให้เหมาะกับการใช้งาน
ก่อนเริ่มติดตั้ง ควรพิจารณาว่าใช้งาน GPS กับรถประเภทใด เช่น
- รถยนต์ส่วนตัว
- รถจักรยานยนต์
- รถบรรทุก
- รถเช่าหรือรถขนส่ง
รวมถึงเลือกฟังก์ชันที่ต้องการ เช่น- แจ้งเตือนเข้าออกพื้นที่ (Geo-fence)
- ดูเส้นทางย้อนหลัง
- ตรวจจับความเร็ว
- ตัดสตาร์ทหรือดับเครื่องจากระยะไกล
- ใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน
2. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมในกล่องของ GPS Tracker มักจะมีอุปกรณ์ดังนี้- ตัวเครื่อง GPS
- สายไฟหรือชุดสายไฟพร้อมขั้วต่อ
- เสา GPS หรือเสาสัญญาณ GSM (บางรุ่น)
- คู่มือการใช้งาน
- บางรุ่นอาจมีรีเลย์สำหรับระบบตัดเครื่องยนต์
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ครบถ้วนก่อนเริ่มติดตั้ง3. เลือกตำแหน่งติดตั้งในรถจุดติดตั้งควรพิจารณาดังนี้- ซ่อนได้ ไม่สะดุดตา ป้องกันการถูกถอด
- ห่างจากแหล่งความร้อนหรือแหล่งรบกวนสัญญาณ
- สามารถเดินสายไฟไปยังแหล่งจ่ายไฟได้ง่าย
ตำแหน่งที่นิยมติดตั้ง เช่น- ใต้แผงคอนโซลหน้ารถ
- ใต้เบาะคนขับ
- ใต้พวงมาลัย
- สำหรับบางรุ่นสามารถติดที่แบตเตอรี่หรือพ่วงแบตสำรองโดยตรง
4. ต่อสายไฟเข้ากับระบบไฟของรถโดยทั่วไปสายไฟ GPS Tracker จะมีอย่างน้อย 3 เส้น- สายแดง = ต่อกับไฟบวก (ACC หรือไฟบวกแบตเตอรี่)
- สายดำ = ต่อกับกราวด์หรือโลหะตัวถัง
- สายเหลือง (ถ้ามี) = ต่อกับระบบตัดเครื่อง (optional)
สำหรับการติดตั้งแบบตัดเครื่อง ควรให้ช่างที่มีความรู้ด้านไฟฟ้ารถยนต์เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อความปลอดภัย5. ใส่ซิมการ์ด (หากรุ่นรองรับ)หากเป็น GPS รุ่นที่ส่งข้อมูลผ่านระบบ GSM หรือมือถือ ต้องใส่ซิมการ์ดลงในเครื่องก่อนใช้งาน และเปิดบริการอินเทอร์เน็ตหรือ SMS ตามที่ผู้ให้บริการแนะนำ6. ทดสอบสัญญาณและฟังก์ชันการใช้งานหลังติดตั้งเสร็จ ให้ทดสอบผ่านแอปหรือระบบจัดการของ GPS Tracker- ตรวจสอบว่าตำแหน่งแสดงถูกต้องหรือไม่
- ทดสอบฟังก์ชัน เช่น การแจ้งเตือนเข้าออกพื้นที่ การตัดเครื่องยนต์ (ถ้ามี)
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ส่งข้อมูลได้ปกติ และไม่มีการตัดขาดสัญญาณ
7. ตั้งค่าระบบในแอปพลิเคชันหรือเว็บผู้ใช้งานต้องล็อกอินเข้าสู่ระบบผ่านแอปมือถือหรือเว็บไซต์ แล้วทำการ- ตั้งชื่อรถหรือหมายเลขทะเบียน
- ตั้งค่าเบอร์โทรหรือข้อความแจ้งเตือน
- กำหนดพื้นที่ควบคุม (Geo-fence)
- ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง หรือรายงานต่าง ๆ
8. บันทึกข้อมูลสำหรับดูแลในอนาคตควรเก็บข้อมูลสำคัญไว้ เช่น- รุ่นและรหัสเครื่อง GPS
- เบอร์โทรซิมการ์ดในเครื่อง
- บัญชีผู้ใช้แอปพลิเคชันและรหัสผ่าน
- สถานที่ติดตั้งในรถ
- วันเริ่มใช้งานหรือวันหมดอายุของบริการรายปี (ถ้ามี)
---------------------------------------------------------------
สนใจติดตั้ง GPS หรือสอบถามเพิ่มเติม
080-295-6052 (พี่บอย)
080-295-1830 (พี่ปูเป้)
LINE: @gpsthaicar
Email: gpsthaicar@gmail.com