GPS Tracker กับ GPS Tracking เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

3 จำนวนผู้เข้าชม  | 

GPS Tracker กับ GPS Tracking เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

แม้คำว่า GPS Tracker และ GPS Tracking จะฟังดูใกล้เคียงกันมาก และมักถูกใช้แทนกันในบทสนทนาเกี่ยวกับระบบติดตามตำแหน่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองคำนี้มีความหมายที่แตกต่างกันอยู่ในเชิงเทคนิคและหน้าที่การทำงาน การทำความเข้าใจคำศัพท์ทั้งสองคำนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ระบบและอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ดียิ่งขึ้น

GPS คืออะไร
ก่อนจะไปถึงความแตกต่างของคำว่า GPS Tracker และ GPS Tracking ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า GPS ย่อมาจากคำว่า Global Positioning System คือระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกโดยอาศัยสัญญาณจากดาวเทียม ซึ่งมีความแม่นยำในการระบุตำแหน่งสูง สามารถใช้งานได้ทั่วโลก

GPS ถูกนำมาใช้ในหลายรูปแบบ เช่น ในแผนที่นำทาง บริการแสดงตำแหน่งในโทรศัพท์มือถือ การวางแผนเส้นทางโลจิสติกส์ และที่สำคัญคือการติดตามตำแหน่งของวัตถุต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับคำว่า GPS Tracker และ GPS Tracking

GPS Tracker คืออะไร
GPS Tracker คืออุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ใช้สำหรับติดตามตำแหน่งของรถ คน หรือสิ่งของ โดยอาศัยการรับสัญญาณจากดาวเทียม GPS และส่งข้อมูลตำแหน่งกลับไปยังผู้ใช้งานผ่านระบบเครือข่าย เช่น อินเทอร์เน็ตหรือสัญญาณโทรศัพท์มือถือ

ตัวอย่างของ GPS Tracker เช่น

  • อุปกรณ์ติดตามรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่สามารถติดตั้งไว้ในรถเพื่อดูตำแหน่งการเดินทาง
  • อุปกรณ์แบบพกพาไว้ในกระเป๋าเดินทางหรือกระเป๋าเด็ก
  • อุปกรณ์สำหรับติดตามผู้สูงอายุหรือเด็กในกรณีที่ต้องการดูแลความปลอดภัย

คุณสมบัติของ GPS Tracker ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน เช่น บางรุ่นมีการแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกพื้นที่ บางรุ่นสามารถฟังเสียงหรือดูภาพจากกล้องได้ รวมถึงสามารถบันทึกประวัติการเดินทางย้อนหลังได้ด้วย

GPS Tracking คืออะไร
GPS Tracking หมายถึงกระบวนการหรือระบบที่ใช้ในการติดตามและตรวจสอบตำแหน่งโดยใช้ข้อมูลจาก GPS Tracker หรืออุปกรณ์ที่มีระบบ GPS อยู่ภายใน โดยข้อมูลตำแหน่งที่ได้จะถูกแสดงผลผ่านโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับระบบเซิร์ฟเวอร์

พูดง่ายๆ GPS Tracking คือการใช้งานและแสดงผลข้อมูลที่ได้จาก GPS Tracker นั่นเอง ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบดังนี้
  • การแสดงตำแหน่งของรถบนแผนที่แบบเรียลไทม์
  • การบันทึกเส้นทางการเดินทางในแต่ละวัน
  • การตั้งค่าข้อความแจ้งเตือนเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติ เช่น ออกจากพื้นที่ที่กำหนด
  • การวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ เช่น การเบรกกะทันหัน การเร่งความเร็ว หรือการจอดรถนานเกินไป


ทั้งสองสิ่งจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน
GPS Tracker และ GPS Tracking เป็นสิ่งที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ กล่าวคือ ถ้าต้องการใช้งานระบบติดตามตำแหน่งให้ได้ผล จำเป็นต้องมีทั้งอุปกรณ์ (GPS Tracker) และระบบแสดงผล (GPS Tracking) ไปพร้อมกัน หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งก็จะไม่สามารถใช้งานได้สมบูรณ์

ตัวอย่างเช่น หากมีแค่ GPS Tracker โดยไม่มีระบบ Tracking ผู้ใช้งานก็จะไม่สามารถเห็นตำแหน่งหรือข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ ในทางกลับกัน หากมีระบบ Tracking แต่ไม่มีอุปกรณ์ GPS Tracker ก็จะไม่มีข้อมูลตำแหน่งมาให้แสดงผล


---------------------------------------------------------------
สนใจติดตั้ง GPS หรือสอบถามเพิ่มเติม
080-295-6052 (พี่บอย)
080-295-1830 (พี่ปูเป้)
LINE: @gpsthaicar
Email: gpsthaicar@gmail.com

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้