97 จำนวนผู้เข้าชม |
ในธุรกิจขนส่ง หรือแม้แต่การดูแลรถยนต์ส่วนตัว การควบคุมค่าใช้จ่ายน้ำมันเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะค่าน้ำมันเป็นต้นทุนหลัก และมักตกเป็นช่องทางของการทุจริตหรือโกงได้ง่ายโดยเฉพาะในระบบที่ไม่มีการควบคุมอย่างรัดกุม
การโกงค่าน้ำมันอาจเกิดจากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถที่ไม่ซื่อสัตย์ ปั๊มน้ำมันที่ไม่โปร่งใส หรือแม้แต่ความเข้าใจผิดของเจ้าของรถเอง บทความนี้จะพาไปรู้จักวิธีตรวจสอบ และป้องกันการโกงค่าน้ำมันแบบละเอียด ชัดเจน อ่านแล้วสามารถนำไปใช้จริงได้ทันที
1. บันทึกเลขไมล์ทุกครั้งที่เติมน้ำมัน
วิธีพื้นฐานที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอคือ การจดบันทึกเลขไมล์ก่อนและหลังเติมน้ำมัน พร้อมจดจำนวนลิตรและราคาที่เติม เพื่อใช้คำนวณอัตราการสิ้นเปลือง เช่น หากขับได้ 500 กิโลเมตร และเติมน้ำมันไป 50 ลิตร จะเท่ากับใช้น้ำมัน 10 กิโลเมตรต่อลิตร หากมีความเบี่ยงเบนจากเดิมมาก ควรเริ่มสังเกตพฤติกรรมการใช้งานของคนขับ
2. ใช้ GPS ติดตามรถร่วมกับระบบตรวจสอบน้ำมัน
ระบบ GPS ที่เชื่อมกับเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำมันในถัง จะสามารถแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ว่า ระดับน้ำมันในถังเพิ่มหรือลดลงเมื่อใด ตรงกับเวลาที่มีการเติมหรือไม่ หากน้ำมันลดลงโดยไม่มีการเดินทาง หรือเติมแล้วระดับน้ำมันไม่เพิ่มขึ้นตามจริง อาจมีความผิดปกติ
3. เปรียบเทียบบิลน้ำมันกับเส้นทางที่ขับจริง
หากคนขับแจ้งว่าเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง แต่ดูจาก GPS แล้วรถไม่ได้อยู่บริเวณนั้น แสดงว่ามีความไม่ตรงกัน ควรเรียกชี้แจงทันที รวมถึงหากบิลระบุปริมาณน้ำมันผิดจากข้อมูลที่ระบบ GPS บันทึกไว้ ก็อาจเป็นสัญญาณของการโกงเช่นกัน
4. ตรวจสอบการเติมน้ำมันซ้ำในเวลาใกล้เคียงกัน
บางครั้งมีการใช้กลโกงแบบ “เติมแล้วถอน” คือเติมน้ำมันแล้วถ่ายออกจากถังเก็บ เพื่อไปขายต่อหรือใช้กับรถส่วนตัว เจ้าของควรตรวจสอบว่าแต่ละวันมีการเติมน้ำมันบ่อยผิดปกติหรือไม่ และระยะทางที่วิ่งสอดคล้องกับปริมาณน้ำมันที่ใช้หรือเปล่า
5. สังเกตอัตราการใช้น้ำมันเฉลี่ยของรถแต่ละคัน
รถแต่ละรุ่นจะมีอัตราการกินน้ำมันเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกัน ถ้าอยู่ดีๆ คันใดคันหนึ่งมีอัตราการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นผิดปกติ ทั้งที่เส้นทางและลักษณะการขับไม่ได้เปลี่ยนแปลง ควรรีบตรวจสอบคนขับหรือปั๊มที่เติมน้ำมันประจำ
6. ใช้บัตรเติมน้ำมันแบบเฉพาะบุคคลหรือรถแต่ละคัน
การใช้บัตรเติมน้ำมันที่ระบุชื่อรถหรือคนขับจะช่วยควบคุมการใช้งานได้ดีขึ้น เพราะสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างชัดเจนว่าบัตรไหนใช้ที่ไหน เติมเมื่อใด และจำนวนเงินเท่าไหร่ ลดความเสี่ยงการเติมน้ำมันให้รถอื่นหรือเก็บเงินทอนเข้ากระเป๋าตัวเอง
7. ติดตั้งถังน้ำมันเสริมที่ปลอดภัยและล็อกได้
ในกรณีที่ต้องใช้รถขนส่งทางไกล และจำเป็นต้องมีถังน้ำมันเสริม ควรเลือกใช้ถังที่ล็อกได้หรือป้องกันการดูดน้ำมันออก เพื่อไม่ให้ใครสามารถแอบนำออกไปขายหรือใช้กับรถอื่นได้
8. วางระบบการอนุมัติล่วงหน้าก่อนเติมน้ำมัน
ระบบนี้จะช่วยให้คนขับไม่สามารถเติมน้ำมันตามอำเภอใจ โดยต้องแจ้งผู้ควบคุมล่วงหน้า เช่น ผ่านแอปพลิเคชัน หรือโทรแจ้ง เพื่อให้สามารถวางแผนและตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับได้ว่าเติมน้ำมันตามที่อนุมัติจริงหรือไม่
9. ฝึกอบรมพนักงานเรื่องความโปร่งใสและจริยธรรม
แม้จะมีกล้องหรือระบบติดตามครบถ้วน แต่หากพนักงานไม่มีจิตสำนึกที่ดี ก็อาจหาช่องทางหลีกเลี่ยงได้ การให้ความรู้เรื่องต้นทุนของบริษัท ผลกระทบของการโกง และรางวัลสำหรับพนักงานที่ซื่อสัตย์ จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในองค์กร
10. ตรวจสอบบิลน้ำมันอย่างละเอียดก่อนจ่ายเงิน
ควรขอดูบิลหรือใบเสร็จตัวจริงทุกครั้ง ไม่ควรอนุมัติค่าใช้จ่ายจากภาพถ่ายหรือคำพูดลอยๆ ตรวจดูวันเวลา เลขปั๊ม เลขลิตร และเลขทะเบียนที่ระบุในบิลว่าตรงกับข้อมูลรถหรือไม่
---------------------------------------------------------------
สนใจติดตั้ง GPS หรือสอบถามเพิ่มเติม
080-295-6052 (พี่บอย)
080-295-1830 (พี่ปูเป้)
LINE: @gpsthaicar
Email: gpsthaicar@gmail.com