83 จำนวนผู้เข้าชม |
การขับรถบรรทุกเป็นอาชีพที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้า การกระจายสินค้าเข้าสู่พื้นที่ต่างๆ หรือการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความรู้ ความระมัดระวัง และความรับผิดชอบสูง เพราะรถบรรทุกมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้น ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถบรรทุกควรตระหนักถึงข้อควรรู้ที่จำเป็นต่อไปนี้
1. ต้องมีใบขับขี่ประเภทที่ถูกต้อง
ผู้ขับรถบรรทุกต้องมีใบขับขี่ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ใบขับขี่ประเภทที่ 2 หรือ 3 ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุกและประเภทของรถ หากใช้ใบขับขี่ไม่ตรงตามประเภท อาจมีความผิดตามกฎหมายและถูกปฏิเสธความคุ้มครองจากประกันภัย
2. ตรวจเช็ครถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
ก่อนเริ่มขับรถควรตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เบรก ยาง น้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น ไฟส่องสว่าง และอุปกรณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้มั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
3. รู้จักน้ำหนักบรรทุกที่กฎหมายกำหนด
ต้องไม่บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่ระบุไว้ในคู่มือหรือป้ายทะเบียนรถ เพราะการบรรทุกเกินอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อถนน หน่วยงานรัฐสามารถจับปรับหรือสั่งพักใช้รถได้
4. การกระจายน้ำหนักต้องสมดุล
แม้ว่าจะไม่บรรทุกเกิน แต่หากวางของไม่สมดุลก็เสี่ยงต่อการเสียการควบคุมรถโดยเฉพาะเมื่อเลี้ยวหรือเบรกอย่างกะทันหัน การกระจายน้ำหนักที่เหมาะสมช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่
5. รู้เส้นทางล่วงหน้า
ควรศึกษาเส้นทางที่จะไปล่วงหน้า โดยเฉพาะถ้าเป็นพื้นที่ไม่คุ้นเคย ควรดูว่ามีทางจำกัดความสูง ความกว้าง หรือห้ามรถบรรทุกผ่านหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเวลาและความยุ่งยาก
6. ขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสม
รถบรรทุกมีน้ำหนักมาก การหยุดรถต้องใช้ระยะทางมากกว่ารถยนต์ทั่วไป ควรขับด้วยความเร็วที่ไม่เกินที่กฎหมายกำหนด และเว้นระยะห่างจากคันหน้าให้เพียงพอ
7. หลีกเลี่ยงการเบรกกระทันหัน
การเบรกแรงๆ อาจทำให้รถเสียการทรงตัว หรือของที่บรรทุกอยู่เคลื่อนหลุดจากตำแหน่ง อาจเป็นอันตรายต่อทั้งตัวเองและผู้อื่น
8. พักผ่อนให้เพียงพอ
การขับรถระยะไกลต้องใช้สมาธิอย่างต่อเนื่อง หากร่างกายอ่อนล้าหรืออดนอนจะทำให้ประสิทธิภาพในการขับลดลง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง ควรพักผ่อนให้เพียงพอทุกครั้งก่อนออกเดินทาง
9. รู้จักสัญญาณมือและการใช้ไฟสัญญาณให้ถูกต้อง
ในการขับขี่ร่วมกับรถอื่น ควรใช้สัญญาณไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟฉุกเฉิน หรือสัญญาณมือ เพื่อสื่อสารกับผู้ร่วมทางให้เข้าใจเจตนาของเรา
10. มีเอกสารติดรถให้ครบ
เอกสารที่ควรมีติดรถ ได้แก่ ใบขับขี่ ใบคู่มือจดทะเบียนรถ ประกันภัย พ.ร.บ. เอกสารแสดงรายการสินค้าบรรทุก รวมถึงใบอนุญาตขนส่งหากต้องใช้
11. หมั่นดูแลสุขภาพตัวเอง
อาชีพขับรถบรรทุกต้องนั่งนาน เดินทางไกล จึงควรใส่ใจสุขภาพเป็นพิเศษ หมั่นออกกำลังกาย ตรวจสุขภาพประจำปี และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์
12. ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
รถบรรทุกเป็นพาหนะขนาดใหญ่ ต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของผู้อื่นด้วย การขับรถโดยไม่ฝ่าฝืนกฎจราจรเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเสมอ
13. หากเกิดเหตุฉุกเฉินควรตั้งสติและมีแผนรับมือ
หากรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ ควรตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน ตั้งกรวยหรือป้ายเตือน และโทรแจ้งบริษัทขนส่งหรือหน่วยกู้ภัยตามความจำเป็น
14. ประกันภัยรถบรรทุกสำคัญมาก
ควรทำประกันภัยที่ครอบคลุมทั้งตัวรถและความเสียหายต่อบุคคลภายนอก เพราะหากเกิดเหตุขึ้นจริงจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและคุ้มครองผู้ขับขี่ได้ดี
15. หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นขณะขับขี่
การใช้โทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นจะทำให้เสียสมาธิ และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยไม่รู้ตัว หากจำเป็นควรใช้ระบบแฮนด์ฟรีหรือหยุดรถในจุดปลอดภัยก่อน
16. มีวินัยในการขับขี่และตรงต่อเวลา
ความมีวินัยช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในสายงานอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา ความสะอาดของรถ และการติดต่อประสานงานกับลูกค้า
17. ไม่ใช้ยากระตุ้นหรือสารเสพติดใดๆ
มีบางรายอาจใช้ยากระตุ้นให้อยู่ตลอดเวลาเพื่อขับรถไกล แต่ผลกระทบต่อสุขภาพและจิตใจมีมาก และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรง
18. ติดตามข่าวสารการเดินทางหรือสภาพจราจร
ใช้แอปพลิเคชันหรือฟังข่าวจราจรเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีปัญหา เช่น ถนนปิด น้ำท่วม หรืออุบัติเหตุสะสม ช่วยประหยัดเวลาและลดความเครียด
19. จัดของและล็อกของในรถให้เรียบร้อย
อย่าให้ของหลวมๆ อยู่ในห้องโดยสาร เพราะอาจกลิ้งหรือกระเด็นมารบกวนขณะขับรถ ควรจัดเก็บให้เรียบร้อยทุกครั้ง
20. ฝึกอบรมและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
ควรเข้าร่วมการอบรมพัฒนาทักษะผู้ขับรถบรรทุก เพื่อเพิ่มความรู้เรื่องความปลอดภัย การขับขี่ประหยัดพลังงาน หรือการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยสนับสนุนงานขนส่ง
---------------------------------------------------------------
สนใจติดตั้ง GPS หรือสอบถามเพิ่มเติม
080-295-6052 (พี่บอย)
080-295-1830 (พี่ปูเป้)
LINE: @gpsthaicar
Email: gpsthaicar@gmail.com