สัญญาณเตือนที่พบได้บ่อย และควรรีบตรวจสอบ

18 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สัญญาณเตือนที่พบได้บ่อย และควรรีบตรวจสอบ

1. ไฟเครื่องยนต์ (Check Engine Light)
เป็นสัญญาณที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันอาจบ่งชี้ได้หลายเรื่อง ตั้งแต่ปัญหาเล็กน้อยอย่างฝาถังน้ำมันปิดไม่สนิท ไปจนถึงระบบไอเสีย หรือเครื่องยนต์มีปัญหาร้ายแรง
หากไฟนี้ขึ้นค้างตลอด แนะนำให้เข้าศูนย์หรืออู่ทันทีเพื่อตรวจเช็ค

2. ไฟแบตเตอรี่
เมื่อไฟรูปแบตเตอรี่ปรากฏขึ้น แสดงว่าอาจมีปัญหาที่ระบบไฟฟ้าของรถ เช่น แบตเตอรี่อ่อน ไดชาร์จมีปัญหา หรือสายไฟหลวม หากปล่อยไว้รถอาจสตาร์ทไม่ติดในครั้งถัดไป

3. ไฟอุณหภูมิความร้อนเครื่องยนต์
มักจะเป็นรูปกาน้ำสีแดงหรือสีส้ม หากขึ้นแสดงว่าเครื่องยนต์กำลังร้อนผิดปกติ ควรจอดพักทันที และตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำ อย่าฝืนขับต่อเพราะอาจทำให้เครื่องยนต์พังได้

4. ไฟแรงดันน้ำมันเครื่อง
หากขึ้นไฟรูปกาน้ำมัน นั่นหมายความว่าแรงดันน้ำมันเครื่องอาจต่ำกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากน้ำมันเครื่องแห้ง หรือน้ำมันรั่ว หากขับต่อไปโดยไม่มีน้ำมันเครื่องเพียงพอ เครื่องยนต์อาจเสียหายถาวร

5. ไฟระบบเบรก (Brake Warning Light)
หากมีไฟสัญลักษณ์รูปวงกลมมีเครื่องหมายตกใจ หรือคำว่า “BRAKE” ปรากฏขึ้น อาจหมายถึงน้ำมันเบรกต่ำ ผ้าเบรกใกล้หมด หรือระบบเบรกมีปัญหา อย่าละเลย เพราะอาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้ง่าย

6. ไฟระบบควบคุมการทรงตัว (ESP/ESC Light)
หากไฟนี้กระพริบขณะขับรถ หมายถึงระบบช่วยควบคุมการทรงตัวกำลังทำงาน เช่น เวลาล้อหมุนฟรีขณะถนนลื่น
แต่ถ้าขึ้นค้างไว้ แสดงว่าระบบอาจมีปัญหา ต้องให้ช่างเช็คโดยด่วน

7. ไฟเตือนแรงดันลมยาง (TPMS)
หากไฟสัญลักษณ์ลมยางขึ้น แสดงว่าหนึ่งในยางรถของคุณมีแรงดันลมน้อยเกินไป ควรตรวจสอบและเติมลมให้เหมาะสมก่อนเดินทางต่อ เพื่อลดความเสี่ยงของการยางระเบิด

8. ไฟเตือนระบบถุงลมนิรภัย (Airbag Warning)
ไฟรูปคนมีถุงลมนิรภัยหากปรากฏขึ้น แสดงว่าระบบถุงลมนิรภัยอาจมีปัญหาและอาจไม่ทำงานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบอย่างเร่งด่วน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้