27 จำนวนผู้เข้าชม |
การเดินทางไกล ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวหรือภารกิจส่วนตัว ย่อมทำให้รถยนต์ของคุณต้องทำงานหนักกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นระยะทาง ความร้อนของเครื่องยนต์ หรือสภาพถนนหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นหลังกลับจากทริป จึงควรเช็คสภาพรถอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่ารถยังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และไม่มีปัญหาที่อาจลุกลามจนเสียหายร้ายแรงในภายหลัง
7 จุดสำคัญที่ควรตรวจสอบหลังเดินทางไกล
1. ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องมีหน้าที่หล่อลื่นและลดความร้อนของเครื่องยนต์ หลังเดินทางไกล น้ำมันเครื่องอาจเสื่อมหรือพร่องลง ควรดึงก้านวัดน้ำมันขึ้นมาตรวจเช็กว่าอยู่ในระดับปกติหรือไม่ และดูว่ามีสีดำหรือเหนียวเกินไปหรือเปล่า ถ้าใกล้ถึงรอบเปลี่ยนถ่าย แนะนำให้เปลี่ยนทันที
2. เช็กระบบหล่อเย็น น้ำหม้อน้ำ และน้ำสำรอง
หลังจากที่เครื่องยนต์ทำงานหนัก ควรตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำและถังพักน้ำ ว่ายังอยู่ในระดับปกติหรือไม่ และไม่มีคราบสนิม น้ำหายบ่อยอาจเป็นสัญญาณของการรั่วซึม ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดจนเสียหายได้
3. ตรวจดูสภาพยางและแรงดันลมยาง
ขณะขับขี่ทางไกล ยางต้องรับน้ำหนักและแรงเสียดทานมากกว่าปกติ ควรเช็กว่าไม่มีรอยบวม แตก หรือหน้ายางสึกผิดปกติ และตรวจสอบลมยางให้เหมาะสมกับค่าที่ผู้ผลิตกำหนด รวมถึงอย่าลืมเช็คยางอะไหล่ด้วย
4. ระบบเบรกต้องพร้อมเสมอ
เบรกเป็นระบบความปลอดภัยที่สำคัญ ควรทดสอบว่ามีเสียงผิดปกติไหม เบรกแล้วหน่วงดีหรือไม่ และระดับน้ำมันเบรกอยู่ในเกณฑ์ปกติ หากมีเสียงดัง ฝืด หรือเบรกแล้วสั่น แนะนำให้นำรถไปตรวจสอบทันที
5. ตรวจสอบช่วงล่างและโช้คอัพ
หากเดินทางผ่านเส้นทางขรุขระหรือมีการบรรทุกของหนัก ควรตรวจสอบช่วงล่าง เช่น ลูกหมาก ปีกนก โช้คอัพ ว่ามีเสียงดัง หรือหลวมผิดปกติหรือไม่ ช่วงล่างที่สึกหรออาจทำให้รถเสียการควบคุม และทำให้ยางสึกไม่เท่ากัน
6. เช็กแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้า
ดูขั้วแบตเตอรี่ว่ามีคราบขี้เกลือหรือไม่ และทดสอบว่าไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ทำงานได้ปกติ หากรถสตาร์ทยากหรือระบบไฟแผ่วลง อาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม
7. ตรวจสอบน้ำมันเกียร์และของเหลวอื่น ๆ
นอกจากน้ำมันเครื่องและน้ำหม้อน้ำแล้ว ยังควรตรวจสอบน้ำมันเกียร์ น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ และน้ำมันเบรกให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงน้ำล้างกระจกด้วย
-------------------------------------------------
สนใจติดตั้ง GPS หรือสอบถามเพิ่มเติม
080-295-6052 (พี่บอย)
080-295-1830 (พี่ปูเป้)
LINE: @gpsthaicar
Email: gpsthaicar@gmail.com