เทคนิคขับรถบนทางด่วนอย่างไรให้ปลอดภัย

29 จำนวนผู้เข้าชม |

การใช้ทางด่วนหรือทางพิเศษกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเมืองในยุคปัจจุบัน เพราะช่วยลดระยะเวลาเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การขับขี่บนทางด่วนก็มีความเสี่ยงที่แตกต่างจากถนนปกติ เนื่องจากมีความเร็วสูง ช่องจราจรชัดเจน และไม่มีทางกลับรถหรือจุดหยุดพักบ่อยนัก ดังนั้น ผู้ขับขี่จึงจำเป็นต้องมีวินัยและความเข้าใจในการใช้งานทางด่วนอย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้อื่น

7 เทคนิคขับรถบนทางด่วนให้ปลอดภัยตลอดเส้นทาง

1. วางแผนเส้นทางก่อนขึ้นทางด่วน
ก่อนขึ้นทางด่วนควรรู้จุดขึ้น-ลงให้แน่ชัด โดยเฉพาะหากเป็นทางด่วนที่ไม่คุ้นเคย เพื่อป้องกันการเบรกกะทันหันหรือเลี้ยวออกผิดทาง ควรเปิดแผนที่หรือ GPS เพื่อตรวจสอบเส้นทางล่วงหน้าให้พร้อม และหากต้องออกจากทางด่วนในช่องซ้าย ให้เตรียมตัวเปลี่ยนเลนแต่เนิ่น ๆ

2. อย่าใช้ความเร็วเกินกำหนด แม้ทางจะโล่ง
ทางด่วนออกแบบมาให้ขับด้วยความเร็วที่เหมาะสม แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะขับเร็วเท่าไรก็ได้ ควรยึดตามป้ายจำกัดความเร็วที่ระบุไว้ เช่น 80-120 กม./ชม. เพราะความเร็วที่มากเกินไปจะลดระยะเวลาในการตัดสินใจหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

3. ห้ามหยุดรถหรือถอยหลังเด็ดขาด
บนทางด่วนไม่มีจุดหยุดรถยกเว้นกรณีฉุกเฉิน และห้ามถอยหลังอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเลยทางออกหรือหลงทางก็ตาม เพราะเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง

4. ใช้ช่องจราจรอย่างถูกต้อง
ช่องขวาเป็นช่องทางสำหรับแซง หากไม่แซงควรขับในช่องซ้ายหรือกลาง หลีกเลี่ยงการขับคร่อมเลนหรือเปลี่ยนเลนบ่อยโดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้ผู้ใช้ทางรายอื่นคาดเดาพฤติกรรมของคุณไม่ได้ และเพิ่มความเสี่ยงในการเฉี่ยวชน

5. อย่าใช้มือถือหรืออุปกรณ์รบกวนขณะขับขี่
การก้มดูมือถือ ขณะขับรถเร็วบนทางด่วน เป็นพฤติกรรมอันตรายอย่างยิ่ง เพราะแม้จะพลาดไปเพียงเสี้ยววินาที ก็อาจทำให้รถชนท้าย หรือเบี่ยงออกนอกเลนได้ทันที

6. เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ
เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูง ระยะเบรกที่ปลอดภัยจะต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ควรเว้นระยะห่างประมาณ 3-5 วินาทีจากรถคันหน้า เพื่อมีเวลาเบรกหรือหักหลบหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

7. เตรียมอุปกรณ์กรณีฉุกเฉินไว้เสมอ
แม้จะขับอย่างระมัดระวัง ก็ยังมีโอกาสที่รถอาจเสียกลางทางด่วน ควรพกอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง ไฟฉาย สายชาร์จแบตเตอรี่ และเบอร์โทรติดต่อช่วยเหลือฉุกเฉินไว้ตลอด