GPS ดูพฤติกรรมคนขับได้อย่างไร และมีประโยชน์อะไรบ้าง

6 จำนวนผู้เข้าชม |

ในยุคที่ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ และการบริหารต้นทุนในการใช้รถก็ต้องคุมอย่างรอบด้าน เทคโนโลยี GPS ไม่ได้ทำหน้าที่แค่บอกพิกัดหรือเส้นทางอีกต่อไป แต่สามารถทำหน้าที่ที่ลึกไปกว่านั้น คือ "ตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่" ของคนขับได้อย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพ

การดูพฤติกรรมคนขับผ่านระบบ GPS คืออะไร?
ระบบ GPS สมัยใหม่สามารถเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์หลายจุดภายในรถ เช่น เซ็นเซอร์จับความเร็ว การเบรกกะทันหัน การเลี้ยวแรง การเร่งเครื่อง รวมถึงการหยุดรถนานโดยไม่ดับเครื่อง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังศูนย์ควบคุมหรือแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์

ประโยชน์ของการดูพฤติกรรมคนขับผ่าน GPS
1. ป้องกันการขับรถแบบเสี่ยง
พฤติกรรมอย่างการเร่งเครื่องแรง ขับรถเร็ว เบรกกระทันหัน หรือขับแบบหวาดเสียว เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุบนถนน GPS จะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ไว้ และแจ้งเตือนผู้ควบคุมทันที เพื่อให้สามารถเรียกมาตักเตือนหรือให้คำแนะนำในการปรับปรุงพฤติกรรมได้อย่างทันท่วงที

2. ลดต้นทุนค่าน้ำมันและค่าซ่อมบำรุง
การขับรถแบบประหยัด เช่น การเร่งเครื่องอย่างนุ่มนวล การไม่จอดติดเครื่องเป็นเวลานาน หรือการใช้ความเร็วคงที่ ส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดน้ำมันและลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ GPS จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ว่าคนขับแต่ละคนใช้รถคุ้มค่าหรือสิ้นเปลืองแค่ไหน

3. เพิ่มความโปร่งใสในองค์กรหรือธุรกิจ
สำหรับองค์กรที่มีรถให้พนักงานใช้ เช่น ธุรกิจขนส่ง เดลิเวอรี่ หรือเซลส์ที่ใช้รถบริษัท การตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ด้วย GPS ช่วยให้บริษัทมั่นใจได้ว่ารถถูกใช้งานตามหน้าที่ ไม่มีการขับออกนอกเส้นทาง หรือใช้ในงานส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต

4. สร้างแรงจูงใจให้คนขับมีวินัย
หลายองค์กรนำข้อมูล GPS มาสร้างระบบรางวัลหรือค่าตอบแทนให้กับพนักงานที่ขับรถดี ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง ขับรถประหยัดน้ำมัน ซึ่งไม่เพียงช่วยลดต้นทุน แต่ยังส่งเสริมความปลอดภัยและวินัยของพนักงานในระยะยาว

5. ใช้เป็นหลักฐานในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
หากเกิดอุบัติเหตุ หรือมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนขับ ข้อมูลจาก GPS จะช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทันที เช่น ขับเร็วเกินกำหนดหรือไม่ เบรกทันหรือไม่ หรือมีการแสดงพฤติกรรมเสี่ยงก่อนเกิดเหตุหรือไม่