การใช้ข้อมูล GPS วิเคราะห์เส้นทางขนส่งให้คุ้มค่าที่สุด

20 จำนวนผู้เข้าชม |

การใช้ข้อมูล GPS วิเคราะห์เส้นทางขนส่งให้คุ้มค่าที่สุด
ในยุคที่ต้นทุนการขนส่งกลายเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญต่อกำไรและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ การบริหารจัดการเส้นทางขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพจึงกลายเป็นภารกิจหลักของผู้ประกอบการหลายราย การใช้ระบบ GPS เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์เส้นทางจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ระบบ GPS ในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่เครื่องบอกตำแหน่งเท่านั้น แต่ยังสามารถเก็บข้อมูลการเดินทางในหลากหลายมิติ เช่น ตำแหน่งปัจจุบัน เส้นทางที่ใช้ ความเร็ว เวลาจอด เวลาที่ใช้ในการขนส่ง สภาพจราจรในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถ ข้อมูลเหล่านี้เมื่อถูกรวบรวมและวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้ผู้ประกอบการเห็นภาพรวมการดำเนินงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

อันดับแรก การวิเคราะห์ข้อมูล GPS ช่วยให้สามารถระบุเส้นทางที่ประหยัดเวลาและเชื้อเพลิงได้ดีที่สุด ข้อมูลจาก GPS สามารถบันทึกระยะทาง เวลาที่ใช้ในแต่ละเส้นทาง รวมถึงช่วงเวลาที่การจราจรหนาแน่นหรือโล่งตัวได้อย่างละเอียด เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลจากหลายเส้นทางในช่วงเวลาต่างกัน ระบบสามารถแนะนำเส้นทางที่ดีที่สุดให้กับพนักงานขับรถในแต่ละช่วงเวลา ลดเวลาการเดินทาง ลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และลดโอกาสในการเกิดความล่าช้าในการส่งมอบสินค้า

ประการต่อมา ข้อมูลจาก GPS ยังช่วยในการวางแผนเส้นทางเชิงกลยุทธ์ในเชิงพื้นที่และความถี่ของการขนส่ง ในธุรกิจที่มีลูกค้าหลายรายในพื้นที่ใกล้เคียงกัน การวางแผนเส้นทางที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดจำนวนเที่ยวขนส่งโดยรวม ลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง ค่าล่วงเวลา และค่าบำรุงรักษารถยนต์ที่เกิดจากการใช้งานเกินความจำเป็น อีกทั้งยังสามารถวางแผนการรับส่งสินค้ากลับในเที่ยวเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การเก็บข้อมูล GPS ยังสามารถใช้วิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง เช่น จุดที่รถติดเป็นประจำ จุดเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ หรือพื้นที่ที่ใช้เวลาส่งสินค้านานกว่าปกติ เมื่อทราบปัญหาเหล่านี้ ผู้ประกอบการสามารถปรับแผนงาน เปลี่ยนเส้นทาง หรือจัดสรรพนักงานขับรถให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของแต่ละพื้นที่ได้อย่างตรงจุด

อีกหนึ่งข้อได้เปรียบคือการนำข้อมูล GPS มาสนับสนุนการบริหารต้นทุนรวมด้านขนส่งอย่างละเอียด ผู้ประกอบการสามารถทราบได้ว่าต้นทุนที่เกิดขึ้นในแต่ละเที่ยวขนส่งมาจากสาเหตุใด เช่น เส้นทางที่ไกลเกินความจำเป็น การขับรถเกินความเร็วที่กำหนดซึ่งสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากเกินไป หรือช่วงเวลาที่รถจอดนานโดยไม่มีความจำเป็น หากสามารถปรับพฤติกรรมการขับขี่และแผนงานได้อย่างเหมาะสมก็จะช่วยลดต้นทุนสะสมในระยะยาวได้เป็นอย่างมาก

ที่สำคัญ การใช้ข้อมูล GPS ยังเป็นประโยชน์ในการวางแผนขยายธุรกิจ ผู้ประกอบการสามารถดูแนวโน้มการสั่งซื้อสินค้าในแต่ละพื้นที่จากจำนวนเที่ยวขนส่งที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งข้อมูลนี้ช่วยให้สามารถตัดสินใจเรื่องการเปิดคลังสินค้าย่อย จุดกระจายสินค้า หรือวางแผนเส้นทางใหม่เพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้อย่างแม่นยำ

โดยสรุป การนำข้อมูลจากระบบ GPS มาวิเคราะห์เชิงลึกถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการบริหารจัดการเส้นทางขนส่งให้คุ้มค่ามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ ลดเวลาในการขนส่ง หลีกเลี่ยงความเสี่ยง หรือแม้แต่ใช้เป็นฐานข้อมูลในการวางแผนธุรกิจในระยะยาว การลงทุนติดตั้งระบบ GPS ที่สามารถจัดเก็บ วิเคราะห์ และสรุปผลข้อมูลเชิงลึกได้ จึงไม่ใช่เพียงการลงทุนด้านเทคโนโลยี แต่เป็นการวางรากฐานสำคัญของธุรกิจขนส่งยุคใหม่ที่ต้องอาศัยข้อมูลในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน