5 วิธีคลายร้อนให้รถยนต์

21 จำนวนผู้เข้าชม |

5 วิธีคลายร้อนให้รถยนต์
ในช่วงฤดูร้อนหรือสภาพอากาศที่แดดแรงจัด อุณหภูมิในรถยนต์สามารถสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนอาจส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ขับขี่และตัวรถเอง ไม่ว่าจะเป็นความไม่สบายขณะขับขี่ การเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ภายใน ไปจนถึงความเสียหายต่อชิ้นส่วนบางอย่างที่ไวต่อความร้อน เช่น ระบบไฟฟ้า แบตเตอรี่ หรือวัสดุพลาสติกในห้องโดยสาร ดังนั้น การรู้วิธีคลายร้อนให้กับรถยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความสะดวกสบายขณะขับขี่ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

1. เลือกจอดในที่ร่มหรือมีหลังคา
การเลือกสถานที่จอดรถเป็นวิธีพื้นฐานที่ช่วยลดความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากเป็นไปได้ควรเลือกจอดในพื้นที่ที่มีหลังคาหรือร่มไม้ช่วยบังแดดโดยตรง เพราะแสงแดดที่ส่องตรงลงมาบนตัวรถจะทำให้อุณหภูมิในห้องโดยสารพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้หากไม่มีที่ร่ม ควรหันหัวรถไปในทิศทางที่แสงแดดส่องมาน้อยที่สุด หรือใช้ผ้าคลุมรถเพื่อลดการสะสมความร้อนบนตัวถังและกระจก

2. ใช้ม่านบังแดดหรือฟิล์มกรองแสง
ม่านบังแดดและฟิล์มกรองแสงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดความร้อนภายในห้องโดยสารได้อย่างดี ม่านบังแดดช่วยป้องกันแสงแดดไม่ให้ส่องเข้ามาทางกระจกโดยตรง โดยเฉพาะกระจกหน้าที่มักจะรับแสงแดดมากที่สุด ส่วนฟิล์มกรองแสงจะช่วยกรองรังสี UV และลดปริมาณความร้อนที่เข้าสู่ภายในรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ การติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่ได้มาตรฐาน ยังช่วยถนอมวัสดุภายในห้องโดยสารไม่ให้เสื่อมสภาพจากการโดนแสงแดดสะสมเป็นเวลานาน

3. เปิดกระจกช่วยระบายความร้อน
ก่อนขับรถออกไปหลังจากจอดกลางแดดเป็นเวลานาน ควรเปิดประตูหรือกระจกทุกบานสักครู่ เพื่อระบายอากาศร้อนออกจากห้องโดยสาร วิธีนี้ช่วยให้อุณหภูมิภายในลดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเปิดแอร์ช่วยปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม เพราะถ้าเปิดแอร์ในขณะที่อุณหภูมิภายในยังสูงมาก เครื่องปรับอากาศจะต้องทำงานหนักและใช้เวลาในการทำความเย็นนานขึ้น ส่งผลต่อการสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น

4. ตรวจสอบสภาพระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์
ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปในช่วงหน้าร้อน ควรหมั่นตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำ หม้อพักน้ำ และตรวจสอบสภาพพัดลมระบายความร้อนอย่างสม่ำเสมอ หากระบบระบายความร้อนมีปัญหาอาจทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการโอเวอร์ฮีต ซึ่งจะนำไปสู่ความเสียหายที่ร้ายแรงและมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสูง

5. หลีกเลี่ยงการวางสิ่งของไวต่อความร้อนไว้ในรถ
นอกจากตัวรถเองแล้ว สิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในรถก็ควรระวังไม่ให้สัมผัสความร้อนโดยตรง เช่น โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่สำรอง เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ขวดพลาสติก หรือของกินของใช้ที่ไวต่ออุณหภูมิสูง เพราะความร้อนในรถสามารถสูงถึง 60-70 องศาเซลเซียสได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งอาจทำให้สิ่งของเหล่านั้นเกิดความเสียหายหรือเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้

การดูแลรถยนต์ในช่วงอากาศร้อนจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยถนอมสภาพรถแล้วยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารอีกด้วย หากนำวิธีทั้ง 5 ข้อข้างต้นไปปรับใช้ก็จะช่วยลดปัญหาจากความร้อนสะสมภายในรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ