McDonalds, Monopoly และมาเฟียสหรัฐฯ พัวพันกันในคดีโกงเงิน

15 จำนวนผู้เข้าชม |

เกมเศรษฐีฉบับอื้อฉาว: เมื่อ McDonald’s, Monopoly และมาเฟียสหรัฐฯ พัวพันกันในคดีโกงเงินระดับชาติ
เมื่อพูดถึงเกมโปรโมชั่นที่สร้างความตื่นเต้นในระดับประเทศ “Monopoly” ของ McDonald’s คือหนึ่งในแคมเปญที่คนอเมริกันจดจำได้ดี เพราะมันไม่ใช่แค่เกมสะสมสติ๊กเกอร์เท่านั้น แต่มีรางวัลใหญ่ที่มีมูลค่ามหาศาล เช่น รถยนต์ บ้าน หรือเงินสดหลายล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดคิดว่าแคมเปญที่ดูเหมือนสนุกสนานนี้ จะกลายเป็นหนึ่งใน คดีฉ้อโกงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การตลาดของสหรัฐอเมริกา

จุดเริ่มต้นของเกมเศรษฐีเวอร์ชัน McDonald's
ตั้งแต่ปี 1987 McDonald’s เริ่มจัดโปรโมชั่น Monopoly Game โดยลูกค้าจะได้รับสติ๊กเกอร์ Monopoly เมื่่อซื้ออาหาร ซึ่งแต่ละชิ้นสามารถนำมาแลกของรางวัล หรือสะสมให้ครบตามเงื่อนไขเพื่อคว้าแจ็กพอตใหญ่อย่างเช่นเงิน $1,000,000

แคมเปญนี้ดึงดูดผู้คนทั่วประเทศ จนกลายเป็นแหล่งความหวังของใครหลายคนในช่วงเวลานั้น แต่ภายใต้ความตื่นเต้นนี้ กำลังซ่อนเครือข่ายการฉ้อโกงที่แยบยลเกินใครจะจินตนาการได้

ผู้อยู่เบื้องหลัง: เจอโรม จาค็อบสัน ชายผู้อยู่ในตำแหน่งที่ไว้ใจได้มากที่สุด
เจอโรม จาค็อบสัน (Jerome Jacobson) คือหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของบริษัท Simon Marketing ซึ่งเป็นบริษัทที่ McDonald's จ้างให้ดูแลเรื่องการจัดพิมพ์และแจกจ่ายสติ๊กเกอร์รางวัล

หน้าที่ของเขาคือการรักษาความปลอดภัยของสติ๊กเกอร์รางวัลใหญ่อย่างเคร่งครัด แต่เขากลับใช้ตำแหน่งหน้าที่นี้ ขโมยรางวัลใหญ่มาแจกจ่ายให้เครือข่ายของตัวเอง เพื่อแลกกับเงินสินบนจำนวนมหาศาล

เครือข่ายโกงที่เชื่อมโยงถึงกลุ่มมาเฟีย
ในตอนแรก จาค็อบสันแจกสติ๊กเกอร์ให้เพื่อนและครอบครัว แต่เมื่อความโลภเพิ่มขึ้น เขาเริ่มขายรางวัลให้กับ “ตัวแทน” ที่สามารถหาคนมาแสดงบทบาทผู้โชคดีแทน ซึ่งมีการจ่ายค่านายหน้าสูงถึง 50% ของรางวัล

ไม่นานนัก เครือข่ายนี้ขยายไปถึง กลุ่มอาชญากรรมในนิวยอร์กและฟลอริดา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการฟอกเงินและจัดการเรื่องปลอมแปลงตัวตน ผู้คนมากมายที่ดูเหมือนพลเมืองธรรมดา กลับกลายเป็น “นักแสดง” ที่ได้รับการจัดฉากมาอย่างดี

ในช่วงเวลากว่า 12 ปี มีเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ถูกโกงไปจากระบบ

การเปิดโปงโดย FBI: ปฏิบัติการ “Final Answer”
ปี 2000 FBI ได้รับเบาะแสเกี่ยวกับการโกง และได้เริ่มปฏิบัติการลับชื่อว่า Operation Final Answer มีการใช้สายลับแฝงตัว ติดกล้องซ่อน และอัดเสียงขณะผู้รับรางวัลเดินทางมารับเช็ค

ในปี 2001 FBI จึงสามารถเปิดโปงเครือข่ายทั้งหมด และจับกุมผู้ต้องหาได้มากกว่า 50 คน รวมถึงเจอโรม จาค็อบสัน ผู้เป็นหัวโจกของแผนการทั้งหมด

แม้ McDonald’s ไม่รู้เห็น... แต่ชื่อเสียงก็ไม่รอด
McDonald's ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกงโดยตรง แต่ผลกระทบต่อภาพลักษณ์แบรนด์นั้นชัดเจน พวกเขารีบแถลงข่าว ยกเลิกสัญญากับ Simon Marketing และเปิดแคมเปญแจกเงินจริงจำนวนมากเพื่อกอบกู้ความน่าเชื่อถือ

จากเรื่องจริงสู่จอทีวี
คดีนี้ถูกนำไปสร้างเป็นสารคดีชื่อ “McMillion$” โดย HBO ในปี 2020 ซึ่งเจาะลึกรายละเอียดทั้งหมด พร้อมบทสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ FBI ที่ปฏิบัติภารกิจจริง

สรุป:
เรื่องอื้อฉาวของเกม Monopoly จาก McDonald’s ไม่ใช่เพียงคดีฉ้อโกงธรรมดา แต่เป็นบทเรียนของความไว้วางใจที่ถูกหักหลังโดยคนวงใน และการแทรกซึมของอาชญากรรมเข้าสู่ระบบการตลาดอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด