การทำงานของระบบช่วยจอด (Parking Assist)

การทำงานของระบบช่วยจอด (Parking Assist)
ระบบช่วยจอดทั่วไปจะใช้เซนเซอร์อัลตราโซนิก กล้อง หรือเรดาร์ในการตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบคันรถ เพื่อช่วยให้ผู้ขับจอดได้ง่ายขึ้น บางระบบสามารถ “บังคับพวงมาลัย” ให้โดยอัตโนมัติ เหลือเพียงการควบคุมคันเร่งและเบรกเท่านั้น

แต่เมื่อเทคโนโลยีนี้ถูกผสานกับ GPS ที่มีความแม่นยำสูง (High-Precision GPS) ระบบจะสามารถ “รู้ตำแหน่งของรถแบบละเอียดระดับเซนติเมตร” ทำให้สามารถคำนวณเส้นทางการจอดได้แม่นยำมากขึ้น


GPS เข้ามาเพิ่มศักยภาพให้ระบบช่วยจอดอย่างไร
ระบุตำแหน่งที่จอดได้แม่นยำขึ้น
GPS ช่วยให้ระบบรู้ว่ารถอยู่บริเวณใดของลานจอด ช่วยลดความผิดพลาดในการเลือกช่องจอด
จดจำตำแหน่งที่จอดรถอัตโนมัติ
ผู้ขับสามารถเรียกดูตำแหน่งรถผ่านแอปได้ทันที เหมาะสำหรับลานจอดขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสำนักงาน
ช่วยให้ระบบจอดอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Auto Parking / Summon)
รถสามารถเคลื่อนตัวเข้าออกจากช่องจอดได้เอง โดยอาศัยข้อมูลจาก GPS และเซนเซอร์ร่วมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการชน
เพิ่มความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมจริง
เมื่อ GPS ทำงานร่วมกับกล้องและเรดาร์ รถสามารถรับรู้ตำแหน่งและสิ่งกีดขวางได้รอบคันแบบเรียลไทม์ ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุขณะจอด

การประยุกต์ใช้ในอนาคต
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถไร้คนขับ (Autonomous Vehicle) จะใช้ระบบ GPS + Parking Assist เป็นพื้นฐานในการจอดอัตโนมัติทุกครั้ง
ระบบจอดรถอัจฉริยะในอาคาร (Smart Parking System) จะสามารถสื่อสารกับรถแต่ละคันเพื่อจัดการพื้นที่จอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริการแชร์รถ (Car Sharing) จะใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อลดความผิดพลาดในการส่งมอบรถและคืนรถ

สรุป
เมื่อ GPS และ ระบบช่วยจอด ทำงานร่วมกัน จะไม่ใช่แค่ “การจอดรถง่ายขึ้น” แต่คือการสร้างมาตรฐานใหม่ของ “ความปลอดภัยและความอัจฉริยะ” ในโลกยานยนต์ยุคดิจิทัล                                                                          สนใจติดตั้ง GPS ที่รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่
โทร. 080-295-6052 (พี่บอย)
โทร. 080-295-1830 (พี่ปูเป้)
LINE: @gpsthaicar
เว็บไซต์: www.gpsthaicar.co.th