รถบรรทุกเสียระหว่างทาง ควรทำอย่างไร ?

รถบรรทุกที่เสียระหว่างเดินทางส่งผลกระทบต่อทั้งความปลอดภัย การจราจร และแผนงานขนส่งของบริษัท หากผู้ขับขี่ไม่มีการเตรียมพร้อมหรือไม่รู้วิธีรับมือที่ถูกต้อง อาจทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลง ทั้งในแง่ความเสียหายและความล่าช้าของงาน

แนวทางปฏิบัติเมื่อรถบรรทุกเสียกลางทาง เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างปลอดภัยและเป็นระบบ

1. ตั้งสติและประเมินสถานการณ์
ทันทีที่รู้สึกว่ารถเริ่มมีปัญหา เช่น เครื่องดับ ไฟโชว์หน้าปัดผิดปกติ หรือมีเสียงดังผิดปกติ ควรลดความเร็วและประคองรถเข้าข้างทางให้ปลอดภัยที่สุด อย่าหยุดรถกะทันหันกลางถนนโดยไม่จำเป็น

2. เปิดไฟฉุกเฉินทันที
เมื่อรถหยุดแล้ว ควรเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อส่งสัญญาณให้ผู้ใช้ถนนคนอื่นรู้ว่ารถมีปัญหา และควรขับผ่านด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในพื้นที่ถนนแคบหรือกลางคืนที่ทัศนวิสัยไม่ดี

3. ตั้งป้ายสามเหลี่ยมฉุกเฉิน
หากมีอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง ควรนำไปตั้งห่างจากตัวรถอย่างน้อย 30–50 เมตร (หรือมากกว่านั้นในกรณีถนนเร็วหรือถนนโค้ง) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงการถูกรถชนจากด้านหลัง

4. หลีกเลี่ยงการยืนกลางถนน
หลังจากจอดรถและตั้งสัญญาณเตือนแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการยืนอยู่บนผิวจราจร หาที่ปลอดภัย เช่น ข้างทาง ริมรั้ว หรือบนทางเดินเท้า และรอความช่วยเหลือจากจุดที่ปลอดภัยที่สุด

5. แจ้งบริษัทต้นสังกัดหรือผู้ควบคุมงาน
ผู้ขับขี่ควรรีบโทรแจ้งหัวหน้าทีม ผู้จัดการโลจิสติกส์ หรือศูนย์ควบคุมที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อให้รับทราบสถานการณ์และประสานความช่วยเหลือ เช่น ส่งช่างมาซ่อม ส่งรถมารับสินค้าต่อ หรือจัดการเรื่องการขนส่งสำรอง

6. แจ้งหน่วยงานฉุกเฉินหากจำเป็น
หากรถเสียอยู่ในที่อันตราย เช่น กลางทางด่วน ถนนโค้ง หรือจุดที่มืดมาก ควรแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น ตำรวจทางหลวง หรือสายด่วนทางด่วน เพื่อขอความช่วยเหลือในการรักษาความปลอดภัยระหว่างรอช่าง

7. ตรวจสอบเบื้องต้นตามความสามารถ
หากผู้ขับขี่มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องยนต์ อาจตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้นได้ เช่น น้ำมันหมด แบตเตอรี่หลวม สายพานขาด หรือฟิวส์ขาด แต่ควรระมัดระวังอย่างมาก และไม่ควรซ่อมเองหากไม่มั่นใจหรือไม่มีอุปกรณ์

8. บันทึกรายละเอียดเหตุการณ์
บันทึกข้อมูลสำคัญ เช่น เวลาเกิดเหตุ จุดที่รถเสีย ลักษณะของปัญหา และภาพถ่ายหน้างาน เพื่อนำมาใช้ในการรายงานบริษัท หรือประกอบการเคลมประกันหากเกิดความเสียหาย

9. ตรวจสอบสินค้าและดูแลความปลอดภัย
หากเป็นรถขนส่งสินค้า ควรตรวจสอบว่าสินค้าในรถยังอยู่ในสภาพปลอดภัยหรือไม่ หากมีของที่เน่าเสียง่าย หรือจำเป็นต้องส่งด่วน ควรประสานเพื่อขนถ่ายไปยังรถคันใหม่โดยเร็ว

10. ป้องกันไว้ก่อนด้วยการตรวจเช็กรถประจำวัน
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ ควรมีการตรวจเช็กรถก่อนออกงานทุกครั้ง เช่น ระดับน้ำมันเครื่อง ลมยาง เบรก ไฟส่องสว่าง น้ำหล่อเย็น และเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รถพร้อมใช้งานตลอดเวลา

---------------------------------------------------------------
สนใจติดตั้ง GPS หรือสอบถามเพิ่มเติม
080-295-6052 (พี่บอย)
080-295-1830 (พี่ปูเป้)
LINE: @gpsthaicar
Email: gpsthaicar@gmail.com