ข้อดี-ข้อเสียของ GPS แบบต่อไฟตรงกับแบบแบตในตัว

36 จำนวนผู้เข้าชม |

ข้อดี-ข้อเสียของ GPS แบบต่อไฟตรงกับแบบแบตในตัว

อุปกรณ์ GPS Tracker ในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายประเภทตามวัตถุประสงค์และรูปแบบการใช้งาน โดยหนึ่งในการแบ่งประเภทที่สำคัญและส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานโดยตรง คือการแบ่งตามแหล่งพลังงานที่ใช้ในการทำงาน ได้แก่ GPS แบบต่อไฟตรงกับระบบไฟฟ้าของรถ และ GPS แบบมีแบตเตอรี่ในตัวหรือแบบพกพา ซึ่งทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ การเลือกใช้งานจึงควรพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง

GPS แบบต่อไฟตรงหมายถึงอุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมต่อเข้ากับระบบไฟของรถยนต์โดยตรง มักติดตั้งโดยใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญ เชื่อมสายไฟเข้ากับวงจรไฟฟ้าของรถอย่างถาวร อุปกรณ์ลักษณะนี้จะสามารถทำงานได้ตลอดเวลาที่รถมีแบตเตอรี่ ไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงานหมด ทำให้เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เช่น ในรถที่ใช้งานประจำ รถขององค์กร รถโดยสาร หรือรถขนส่งที่ต้องการตรวจสอบเส้นทางและพฤติกรรมการขับขี่แบบเรียลไทม์ จุดเด่นอีกประการของ GPS แบบต่อไฟคือความสามารถในการเก็บข้อมูลย้อนหลังอย่างต่อเนื่อง และสามารถใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงได้ เช่น การสั่งตัดเครื่องยนต์ การแจ้งเตือนเมื่อรถสตาร์ท หรือการตรวจจับแรงสั่นสะเทือนของรถ

อย่างไรก็ตาม GPS แบบต่อไฟก็มีข้อจำกัดในเรื่องของความยืดหยุ่นในการใช้งาน เนื่องจากต้องใช้เวลาและความเชี่ยวชาญในการติดตั้ง การถอดเปลี่ยนหรือนำไปใช้กับรถคันอื่นจึงไม่สะดวก นอกจากนี้ยังอาจมีข้อกังวลเกี่ยวกับการรับประกันรถยนต์ หากการติดตั้งกระทบต่อระบบไฟฟ้าหรืออุปกรณ์เดิมของรถโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ผลิตหรือศูนย์บริการ

ในทางตรงกันข้าม GPS แบบแบตเตอรี่ในตัว หรือที่มักเรียกว่า GPS แบบพกพา เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการความสะดวกและไม่ต้องการติดตั้งถาวร สามารถใช้งานได้ทันทีหลังจากเปิดเครื่อง และสามารถซ่อนไว้ในจุดต่างๆ ของรถได้ง่ายโดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับระบบไฟของรถ อุปกรณ์แบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานชั่วคราว เช่น การเฝ้าระวังการใช้รถในบางช่วงเวลา การติดตามทรัพย์สิน หรือการใช้งานกับรถหลายคันสลับกันได้

ข้อดีที่โดดเด่นของ GPS แบบแบตในตัวคือความง่ายในการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาช่างติดตั้ง และไม่เสี่ยงต่อการกระทบระบบเดิมของรถ ผู้ใช้สามารถชาร์จแบตเตอรี่และนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ และบางรุ่นสามารถใช้งานได้นานหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งขึ้นอยู่กับความถี่ในการส่งข้อมูล

แต่ในขณะเดียวกัน GPS แบบแบตในตัวก็มีข้อจำกัดด้านความต่อเนื่องของการใช้งาน หากลืมชาร์จหรือไม่ได้ตรวจสอบแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้อุปกรณ์หยุดทำงานโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งอุปกรณ์บางรุ่นอาจมีฟังก์ชันจำกัดกว่ารุ่นที่ต่อไฟ เช่น ไม่สามารถสั่งตัดเครื่องยนต์ หรือไม่รองรับการแจ้งเตือนบางประเภท และหากเป็นการติดตามเพื่อความปลอดภัยหรือใช้งานด้านกฎหมาย อุปกรณ์ที่มีข้อจำกัดในการบันทึกข้อมูลอาจไม่ตอบโจทย์ในกรณีที่ต้องใช้หลักฐานย้อนหลัง

นอกจากนี้ การวางตำแหน่งของ GPS แบบพกพาอาจทำให้สัญญาณขาดช่วงได้ง่ายกว่าหากติดตั้งในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม เช่น อยู่ใต้โลหะหรือในพื้นที่อับสัญญาณ และเนื่องจากอุปกรณ์ไม่ยึดติดกับตัวรถถาวรจึงอาจถูกถอดออกหรือทำลายได้ง่ายกว่าหากมีบุคคลตั้งใจหลีกเลี่ยงการถูกติดตาม

การเลือกใช้ GPS แบบใดจึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน หากต้องการความต่อเนื่อง ความแม่นยำ และการบริหารจัดการแบบระยะยาว GPS แบบต่อไฟตรงจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากต้องการความยืดหยุ่น ใช้งานเป็นครั้งคราว หรือไม่ต้องการติดตั้งถาวร GPS แบบแบตเตอรี่ในตัวอาจเป็นทางเลือกที่สะดวกและตอบโจทย์ได้มากกว่า

ในที่สุด ไม่ว่าผู้ใช้จะเลือกแบบใด สิ่งสำคัญคือการพิจารณาให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานจริง และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีการรับประกัน และมีผู้ให้บริการที่สามารถดูแลหลังการขายได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ GPS ที่เลือกใช้นั้นสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความอุ่นใจ และประสิทธิภาพในการดูแลยานพาหนะได้อย่างแท้จริง