เลือก GPS ยังไงให้เหมาะกับรถส่วนตัว

35 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เลือก GPS ยังไงให้เหมาะกับรถส่วนตัว

เลือก GPS ยังไงให้เหมาะกับรถส่วนตัว

          ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันมากขึ้น ระบบติดตามพิกัดด้วย GPS หรือที่เรียกว่า GPS Tracker กลายเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเจ้าของรถส่วนตัวอย่างรวดเร็ว เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ยังสามารถใช้ในการตรวจสอบเส้นทางย้อนหลัง ป้องกันการโจรกรรม และดูแลสมาชิกในครอบครัวที่ใช้รถร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การเลือก GPS Tracker ให้เหมาะสมกับรถส่วนตัวนั้นไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป และเหมาะกับรูปแบบการใช้งานที่ต่างกันออกไปด้วย

          การเริ่มต้นเลือก GPS สำหรับรถส่วนตัวควรพิจารณาจากวัตถุประสงค์หลักของการใช้งานเป็นอันดับแรก หากเจ้าของรถต้องการใช้เพื่อความปลอดภัยจากการโจรกรรม ควรเลือกอุปกรณ์ที่สามารถติดตั้งในตำแหน่งลับ มีแบตเตอรี่สำรองในตัว และรองรับฟังก์ชันการแจ้งเตือนเมื่อมีการเคลื่อนรถโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือสามารถระบุตำแหน่งรถได้แม้ในขณะที่รถจอดอยู่ในที่อับสัญญาณ นอกจากนี้ รุ่นที่สามารถสั่งตัดระบบสตาร์ทรถจากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชันก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่รถถูกขโมยหรือใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต

          หากเจ้าของรถต้องการใช้ GPS เพื่อติดตามการใช้งานรถในครอบครัว เช่น ให้บุตรหลานยืมรถขับ ควรเลือกอุปกรณ์ที่สามารถแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น ตำแหน่ง เส้นทางย้อนหลัง ความเร็วในการขับขี่ รวมถึงพฤติกรรมการเบรกหรือเร่งเครื่อง ระบบแจ้งเตือนออกนอกพื้นที่หรือขับเกินความเร็วที่กำหนดสามารถช่วยป้องกันอุบัติเหตุและให้ผู้ปกครองติดตามความปลอดภัยได้อย่างใกล้ชิด

          ในกรณีที่ผู้ใช้งานต้องการข้อมูลย้อนหลังเพื่อนำมาวิเคราะห์ เช่น เพื่อจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย ตรวจสอบการใช้งานน้ำมัน หรือวางแผนเส้นทางในอนาคต ควรเลือก GPS Tracker ที่สามารถเก็บข้อมูลย้อนหลังได้อย่างน้อย 30 ถึง 90 วัน และสามารถเรียกดูรายงานแบบละเอียดผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน นอกจากนี้บางรุ่นยังสามารถส่งออกข้อมูลในรูปแบบเอกสารเพื่อนำไปใช้งานต่อได้สะดวก

          อีกประเด็นที่สำคัญคือความสะดวกในการติดตั้งและการดูแลรักษา สำหรับรถส่วนตัวที่ไม่มีทีมช่างประจำ ควรเลือกอุปกรณ์ที่ติดตั้งง่าย ไม่ซับซ้อน และมีขนาดเล็กไม่รบกวนพื้นที่ภายในรถ รวมถึงมีระบบแบตเตอรี่สำรองในกรณีที่มีการถอดสายไฟหรือไฟรถหมด ระบบควรสามารถทำงานต่อได้อีกระยะหนึ่งเพื่อให้เจ้าของรถมีเวลาติดตามหรือดำเนินการป้องกัน

          การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีแอปพลิเคชันใช้งานง่าย รองรับทั้งระบบ Android และ iOS มีเมนูภาษาไทย และมีระบบแจ้งเตือนที่ทันสมัย เช่น การแจ้งเตือนผ่านไลน์ อีเมล หรือการแจ้งเตือนแบบ push notification บนมือถือ นอกจากนี้การบริการหลังการขายก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากระบบมีปัญหาหรือมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ ผู้ให้บริการที่ดีควรมีทีมซัพพอร์ตที่พร้อมตอบคำถามและแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

          เรื่องของราคาอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือก GPS Tracker แต่ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าในระยะยาว อุปกรณ์ราคาถูกอาจมีฟังก์ชันไม่ครบ หรือคุณภาพการเชื่อมต่อไม่เสถียร ซึ่งจะส่งผลให้ข้อมูลตำแหน่งไม่แม่นยำหรือขาดช่วงในการบันทึก ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งานโดยรวม การลงทุนกับอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน มีการรับประกัน และผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้จึงถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

          สุดท้ายนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า GPS Tracker ที่เลือกสามารถทำงานได้ทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่แม้ในเขตห่างไกล หรือพื้นที่ที่มีสัญญาณมือถืออ่อน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไกลเป็นประจำ หรือมีการเดินทางออกนอกเขตเมืองบ่อยครั้ง ฟีเจอร์การรายงานแบบต่อเนื่องผ่านเครือข่าย 4G หรือซิมการ์ด M2M จะช่วยให้สามารถติดตามตำแหน่งรถได้อย่างไม่มีสะดุด

          การเลือก GPS ที่เหมาะสมกับรถส่วนตัวจึงไม่ใช่แค่เลือกตามราคาหรือยี่ห้อเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การใช้งาน สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ และมอบความปลอดภัยและความมั่นใจสูงสุดในการใช้รถในทุกวัน

 

 

สนใจติดตั้ง GPS หรือสอบถามเพิ่มเติม
080-295-6052 (พี่บอย)
080-295-1830 (พี่ปูเป้)
LINE: @gpsthaicar
Email: gpsthaicar@gmail.com

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้